AMATA คาดทำได้ตามเป้าที่ 900 ไร่ ประเมินยอดขายที่ดินปี 63 โต 10%
AMATA พุ่ง ตั้งเป้าปี 2563 โต 10% รับผลดีเทรดวอร์ดันลูกค้าจีนย้ายฐานผลิตมาไทย ดันยอดขายที่ดิน หลังลูกค้าจีนสนใจมากขึ้น-มาตรการรัฐหนุน พร้อมลุยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 80% ในอนาคต หวังสร้างเสถียรภาพการเติบโต เตรียมชงบอร์ดปิดงบไตรมาส 3 วันที่ 14 พ.ย.นี้
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการ บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน (AMATA) เผบว่า บริษัทฯ คาดปี 2562 ทำได้ตามเป้ากว่า 900 ไร่ แบ่งเป็น ยอดขายที่ดินจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ราว 150 ไร่, นิมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง 500 ไร่, นิคมอุตสาหกรรมระยอง (ไทย-จีน) 300 ไร่ เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยมองประเทศจีนส่วนใหญ่มีความรู้สึกดีกับประเทศไทยอยู่แล้ว และด้วยประเทศไทยวันนี้ถือว่าอยู่ใน Position ที่ดี มีสภาพคล่องทางการเงินดี
รวมถึงยังมีแรงสนับสนุนจากการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลทหาร มาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุน มีโอกาสกลับเข้ามาเช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการรัฐแพคเกจ Thailand Plus ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น คาดยอดขายที่ดินปี 2563 จะเติบโต 10% จากปีนี้
ทั้งนี้ ประกอบกับนักลงทุนที่ไปลงทุนในจีน แล้วได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าฯ มีความต้องการย้ายฐานการผลิต ซึ่งส่วนนี้อาจเลือกลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ ลองถั่น รวมกว่า 1 พันเฮกเตอร์ และมีที่ดินพร้อมขายอยู่ที่ 66 เฮกเตอร์, นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง ในภาคเหนือของเวียดนาม เฟสแรก ที่จะพัฒนามีพื้นที่กว่า 700 เฮกเตอร์ ซึ่งหากมีการย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม บริษัทฯ มีที่ดินที่พร้อมรองรับ ทำให้บริษัทฯ จะได้รับอานิสงส์ทั้งในไทยและเวียดนาม
ปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อยู่ที่จ.ชลบุรี และระยอง โดยมีแลนด์แบงก์รวมกันที่ 14,000 ไร่ และมีที่ดินพร้อมขายคิดเป็น 1,000 ไร่ โดยมีลูกค้าอันดับ 1 เป็นประเทศจีน ที่ให้ความสนใจซื้อที่ดินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนลูกค้าชาวจีนในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 70-80% ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่เชื่อว่าในแง่ของวอลุ่มขายจะเพิ่มจากปีก่อนอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้าเป็น Landlord หรือเป็นเจ้าของที่ดินด้วย โดยมีแนวทางในการพัฒนาที่ดินเป็นรูปแบบการเช่า โดยเฉพาะที่ดินในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์อยู่ที่ 11,000 ไร่ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันรายได้ประจำให้เติบโตขึ้น
บริษัทฯ โดยตั้งเป้าในอนาคตจะมีรายได้ประจำคิดเป็น 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม โดยจะมาจากการเข้าไปร่วมลงทุนโครงการสาธารณูปโภค เช่น โรงไฟฟ้า, ระบบน้ำ, คลังสินค้า และการให้เช่าที่ดิน
สำหรับ แผนการจัดตั้งเมืองอัจฉริยะ และนิคมอุตสาหกรรมในสปป.ลาว บริษัทฯ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2 ปี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม หลังจากที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย หรือ บริษัท อมตะ ซิตี้ ลาว จำกัด เข้ามาดูแลแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท ในวันที่ 14 พ.ย.2562 เพื่อรับรองผลประกอบการไตรมาส 3/62 และเตรียมนำเสนอแผนธุรกิจ และงบประมาณการลงทุนของปี 2563 รวมไปถึงในปีหน้า มีแผนจะไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี เพื่อให้ข้อมูลนักลงทุนและอัพเดทธุรกิจ
สำหรับ ปัญหาสงครามการค้านั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนยอดขายของบริษัท ทั้งในประเทศ?ไทยและประเทศ?เวียดนาม ซึ่ง AMATA มีฐานธุรกิจนี้ทั้งใน 2 ประเทศ ส่วนในประเทศไทยนั้น
ขณะที่ภาพของบริษัทนับจากนี้ จะเริ่มขยายไปยังธุรกิจ?ที่สร้างรายได้ประจำมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ โดยวางเป้าในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้จากรายได้ประจำเพิ่มเป็น 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 50% ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินภายใต้การครอบครองทั้งในจังหวัดชลบุรีและระยอง ประมาณ 14,000 ไร่ โดยเป็นที่ดินพร้อมขาย (Land availablefor sales) ประมาณ 1, 000 ไร่ ซึ่งบริษัทวางงบเพื่อรองรับการเข้าซื้อที่ดินปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท
ทางด้านราคาขายที่ดินนั้น บริษัทจะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูง โดยราคาขายที่ดินที่ชลบุรี อยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาทต่อไร ส่วนที่ระยองอยู่ที่ 4.5 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งบริษัทวางแผนพัฒนาที่ดินในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเป็นรูปแบบการเช่า เพราะต้องการคงสถานะการเป็นเจ้าของที่ดิน (Landlord)
ด้านนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลองในภาคเหนือของเวียดนาม เฟสแรกที่จะพัฒนาจะมีพื้นที่กว่า 700 เฮกเตอร์ ส่วนอมตะชิตี้ ลองถั่น มีพื้นที่ทั้งหมดรวมกว่า 1 พันเฮกเตอร์ แต่ที่ดินพร้อมขายจะอยู่ที่ 66 เฮกเตอร์
ขณะที่แผนการจัดตั้งเมืองอัจฉริยะและนิคมอุตสาหกรรมในประเทศลาว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 2 ปี นับจากนี้ นอกจากนี้ แล้วบริษัทยังมีแผนเดินทางให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ที่ประเทศ?ญี่ปุ่นและเกาหลี เพื่อให้ข้อมูลนักลงทุนและอัพเดทธุรกิจของบริษั?ทในอนาคต
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะClick Donate Support Web