หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามตลาดภูมิภาค รับจีนคลายล็อกดาวน์หนุนศก.ฟื้นstock inside


นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทางการจีนเตรียมคลายล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะเข้ามาช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

แต่อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับตัวขึ้นไปอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาเติบโต 4% ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ 6% ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 1.6% หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่รัฐบาลเวเนซุเอลา

นอกจากนี้ความไม่แน่นอนด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของหลายๆประเทศ สงครามระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายๆเมืองในประเทศจีน

พร้อมให้แนวรับที่ 1,605 จุด และ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,620-1,625 จุด

ด้านบล.เคทีบีเอสที คาดดัชนีฯ มีโอกาส Rebound ต่อ นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นหลังราคาลงมามาก และเริ่มมีข่าวในเชิงบวกเข้ามา ขณะที่ ยูเครน-รัสเซีย ยังไม่มีอะไรใหม่ ๆ ขณะที่อียูเตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยจะมีการจัดประชุมเพื่อพิจารณาในวันที่ 30-31 พ.ค. คาดว่าสถานการณ์นี้ยังกระทบต่อราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่นักลงทุนเริ่มชิน

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในงานสัมมนาคืนที่ผ่านมา(17 พ.ค.) ว่าจะเดินหน้าใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไป จนมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัว เรามองว่าตลาดเห็นความชัดเจนมากขึ้น(เรื่องดอกเบี้ย) ทำให้นักลงทุนมีการขาย Bond (สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ) และหันกลับมาซื้อหุ้นแทน

จีนเริ่มมีการพูดถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะ Internet หากสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับเรามองว่าปัจจัยนี้จะเป็นตัวช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยอิงอยู่กับเศรษฐกิจจีน หุ้นที่บวกจากข่าวนี้ คือ Logistics เดินเรือ และส่งออก

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,654.59 จุด เพิ่มขึ้น 431.17 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,088.85 จุด เพิ่มขึ้น 80.84 จุด หรือ +2.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,984.52 จุด เพิ่มขึ้น 321.73 จุด หรือ +2.76%

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,826.82 จุด เพิ่มขึ้น 167.07 จุด หรือ +0.63% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,674.23 จุด เพิ่มขึ้น 71.71 จุด หรือ +0.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,095.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด หรือ +0.07%

ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 พ.ค.) ที่ระดับ 1,614.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.11 จุด, +1.90%

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,556.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ค.65

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(17 พ.ค.)ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 112.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 พ.ค.) อยู่ที่ 18.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 34.51 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อยตามทิศทางตลาด หลังดอลลาร์อ่อนค่า

สศช.หั่นจีดีพีปี 65 จาก 3.5-4.5% เหลือ 2.5-3.5% ชี้ปัจจัยภายนอกกดดันทั้งซีโร่โควิดของจีน ผลจากสงคราม น้ำมันแพง เงินเฟ้อพุ่ง ชี้ไทยต้องพึ่ง "ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศ" ด้านกรุงไทยคอมพาส หวังท่องเที่ยวหนุน เศรษฐกิจโต 3% ห่วงส่งออกเริ่มชะลอ "ทีทีบี" หวั่น "ต้นทุนพุ่ง-เงินบาทอ่อน" กดดันเศรษฐกิจโตต่ำ 3% ธปท.ยืนยันฐานะแบงก์ไทยยังมีความแข็งแกร่ง

ครม.เคาะลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาท/ลิตร เริ่ม 21 พ.ค.-20 ก.ค. "บิ๊กตู่" ย้ำดูแลค่าครองชีพประชาชน "คลัง" เผยกระทบรายได้หาย 2 หมื่นล้านบาท แต่จำเป็น มั่นใจไม่กระทบเป้าจัดเก็บรายได้ทั้งปี ก.พลังงานกางสภาพฯ กองทุนน้ำมันฯ บักโกรกติดลบทะลุ 7.2 หมื่นล้านบาท จับตาประชุม กบน.วันนี้ (18 พ.ค.) ลุ้นตรึงดีเซล 32 บาท/ลิตรต่อ กบง.เบรกถกแผนลดผสมไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B3 ส่อไม่ได้ไปต่อหลังถูกคัดค้าน

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3,185,000 ล้าน มีรายจ่ายงบกลางสูงถึง 590,470.0 ล้าน ขณะที่รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 306,618.0 ล้าน ด้าน บิ๊กตู่' ลั่นกลางวง ครม.ไม่เอาไว้แน่ ถ้ารู้ ส.ส.ของบปี 66 ทำโครงการ

เอกชนท่องเที่ยวโอด แผนเปิดประเทศไม่เข้าเป้า ยกเลิก Test & Go ตัวเลขนักท่องเที่ยวไม่ปัง เดือน พ.ค.เข้าประเทศเพียง 1.4-1.5 หมื่นคนต่อวัน นักท่องเที่ยวอังกฤษเดินทางเข้าสูงสุดอันดับ 1 ขณะที่ "อินเดีย" มาแรงแซง "เยอรมัน-รัสเซีย-สหรัฐ" ททท.ยังมั่นใจทั้งปีดึงต่างชาติ 7-10 ล้านคนตามเป้าหมาย สร้างรายได้ 1.3-1.5 ล้านล้านบาท สทท.แนะเร่งฟื้นฟู-อัดแคมเปญแบบฮาร์ดเซลหนุน

 

*หุ้นเด่นวันนี้

CKP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 6.50 บาท ทยอยซื้อก่อนเข้าสู่ High Season ในช่วงฤดูฝนขณะที่ราคายังอยู่ในโซนล่าง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาการเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,400MW จะเป็น Upside ให้กับ CKP ในระยะกลางถึงยาว

BAFS (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 35.00 บาท BAFS เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแผนการเปิดประเทศและความหวังจากกิจกรรมทางด้านการบินที่ทยอยฟื้นตัว หลังมาตรการผ่อนคลายเดินทางเข้าไทย โดยในปี 65 ผู้บริหารคาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานเติบโต +119%YoY อยู่ที่ 3.6 พันล้านลิตร ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนยาว 5 ปีไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยจะลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (Utilities & Power) และกลุ่มบริการ (Business Services) เพื่อผลักดันให้มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 50% ขณะที่รายได้จากธุรกิจปัจจุบันจะปรับลงเหลือ 50%

AAV (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.6 บาท แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาไทยในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 7 ล้านคน จาก 5.5 ล้านคน คาดว่าเป็นบวกต่อุตสาหกรรมการบิน

--อินโฟเควสท์

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!